แผลผ่าคลอด ต้องดูแลอย่างไรมาดูกันค่ะ

แผลผ่าคลอดเป็นผลจากการผ่าคลอด โดยแผลจะถูกเย็บปิดสนิทอยู่ใต้สะดือยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร คุณแม่ที่ผ่าคลอดควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดในการดูแลสุขภาพร่างกายและรอยแผลเพื่อลดความเสี่ยงเกิดเกิดรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ การเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ อันรวมไปถึงแผลติดเชื้อ นอกจากนั้น ควรเตรียมพร้อมด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะแผล วิธีดูแลแผล และการป้องกันแผลติดเชื้อ เพื่อจะได้ดูแลแผลผ่าคลอดได้อย่างถูกต้อง

แผลผ่าคลอดเป็นอย่างไร

โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดศัลยกรรมจะทำให้เกิดรอยแผลแก่ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด เช่นเดียวกับสตรีมีครรภ์ส่วนใหญ่ที่ผ่าคลอด โดยมักปรากฏรอยเย็บแผลยาว 4-6 นิ้ว เป็นแนวนอนตามแนวขอบกางเกงชั้นในหรือแนวตั้งใต้สะดือ ขึ้นอยู่กับลักษณะการลงแผลตอนผ่าคลอด ในสัปดาห์แรกหลังจากผ่าคลอด ผิวชั้นนอกของแผลจะเริ่มติดกัน จากนั้นแผลจึงปิดสนิทและเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอยู่นานประมาณ 6 เดือน ก่อนจะค่อย ๆ จางลงเป็นสีขาวและเรียบขึ้น ส่วนแผลที่กล้ามเนื้อท้องและมดลูกอาจใช้เวลานานหลายเดือนจึงจะหายดี ทั้งนี้ ผู้ผ่าคลอดบางรายอาจเกิดแผลเป็นคีลอยด์ แต่พบได้ไม่บ่อยนัก

ผู้ที่เข้ารับการผ่าคลอดควรหมั่นดูแลรักษาแผลให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่แผล โดยหากสังเกตพบสัญญาณของการติดเชื้อดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
– เจ็บบริเวณแผลหรือมดลูกมากกว่าปกติ
– เกิดรอยแดง บวม และแสบร้อนที่แผล
– มีหนองสีเขียวหรือเหลืองไหลออกมาจากแผล
– ตกขาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
– มีเลือดออกทางช่องคลอดปริมาณมากหรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมาด้วย
– ขาบวมหรือเจ็บ
– ไข้ขึ้นสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส

ควรดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร

คุณแม่จะได้รับการดูแลแผลหลังผ่าคลอด โดยแพทย์จะทำแผลให้เรียบร้อย และเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ในกรณีที่มีเลือดซึมออกมาจากแผล นอกจากนี้ คุณแม่ควรดูแลแผลด้วยตนเองตามคำแนะนำโดยปฏิบัติตามดังนี้
– ไม่ยกของหนักในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังผ่าคลอด
– หมั่นล้างแผลและทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผิวบริเวณเชิงกราน
– ล้างมือก่อนสัมผัสแผลหรือทำแผลทุกครั้ง
– ไม่ดึงปลายไหมเย็บแผลที่โผล่ออกมา ควรแจ้งแพทย์ให้เล็มปลายไหมให้ เพื่อป้องกันไหมเย็บแผลเกี่ยวเสื้อผ้า
– อาบน้ำฝักบัวแทนการแช่น้ำในอ่าง
– อาบน้ำด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อน และไม่ถูสบู่ เจลอาบน้ำ หรือทาแป้งลงบนแผลโดยตรง
– ซับแผลให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด
– สวมเสื้อผ้าและกางเกงชั้นในที่หลวม ไม่รัดแน่น เพื่อป้องกันการเสียดสีที่แผล
– ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยากินหรือยาทาสำหรับรักษาแผลผ่าคลอดทุกครั้ง
– คุณแม่อาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือเครื่องสำอางบางชนิดระหว่างอยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้
– หมั่นเช็ดบริเวณผิวหนังที่เป็นรอยพับเหนือแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้บริเวณดังกล่าวชื้นเหงื่อ
– ควรพบแพทย์ทันทีในกรณีที่พบสัญญาณการเกิดแผลติดเชื้อ เช่น เกิดรอยแดงที่แผล มีไข้ขึ้นสูง เป็นต้น
– หลังแผลแห้งปิดสนิท ทาวิตามินอีที่แผลเพราะวิตามินอีจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินอีเข้มข้นสูงเป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแล, อัลเลียม ซีปาจะช่วยลดอาการอักเสบ และซิลิโคนจะช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลเป็นคีลอยด์